วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บทที่ 5 ช่างประปา

งานช่างประปา   คือ ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการวางท่อประปา การเชื่อมต่อท่อ และการไหลของน้ำ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์  มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำปรากฏว่า  คนในชนบทใช้น้ำ  150  ลิตรต่อคนต่อวัน  คนในเมืองใช้น้ำ  440  ลิตรต่อคนต่อวัน  น้ำจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์มาก  ระบบการประปาได้แก่  การนำน้ำเข้ามาใช้  การระบายน้ำโสโครกภายในอาคารบ้านเรือนออกไป  เป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากที่สุด  ระบบประปาที่ดีมีประสิทธิภาพ  จึงหมายถึงความสะดวกสบาย  สุขภาพและพลานามัยของผู้อยู่อาศัย  ดังนั้นความรู้เรื่องระบบน้ำประปา  ระบบการระบายน้ำโสโครก  สุขภัณฑ์  เครื่องมือเครื่องใช้  วัสดุอุปกรณ์  ตลอดจนวิธีการจัดระบบการประปา  การซ่อมบำรุงรักษา  จึงเป็นสิ่งจำเป็น  สามารถศึกษาและปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง
เราสามารถใช้น้ำในการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งการอุปโภคและบริโภค อาคารบ้าน พักอาศัยก็เช่นเดียวกัน จำเป็นจะต้องมีการวาง ระบบน้ำประปา มาใช้ในอาคารด้วย ในการนำน้ำมาใช้กับ อาคารบ้านเรือน ทั้งหลาย จะต้องมีการวางระบบที่ดี เพื่อให้เกิดความสะดวกใน การใช้งานอีกทั้งสะดวกในการบำรุงรักษาอีกด้วย ต้องคำนึงถึง การจัดวางตำแหน่ง ท่อต่างๆได่แก่ ระบบท่อน้ำดี ระบบท่อน้ำทิ้ง ระบบท่อน้ำเสีย และ ระบบท่อระบายอากาศ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพ ในการใช้ ตลอดจนอายุการใช้งานที่ยาวนานและเนื่องจากระบบท่อต่าง ๆ จะถูกซ่อนไว้ตามที่ต่างๆเช่นในผนัง พื้น ฝ้าเพดาน ฉะนั้น ก่อนการ ดำเนินการก่อสร้างต้องมีการวางแผนให้ดี เพื่อประโยชน์ในการซ่อมบำรุงในภายหลัง และนอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้อง คำนึงถึงอีกมากมาย ดังเช่น
1) จัดเตรียมพื้นที่การเดินท่อทั้งแนวนอน แนวดิ่ง รวมถึงระยะลาดเอียงต่าง ๆ
2)
ติดตั้งฉนวนในระบบท่อที่จำเป็นเช่น ท่อน้ำเย็น เพื่อลดความเสียหายจากการรั่วซึม
3)
ออกแบบระบบแขวน และรายละเอียดอื่น ๆ ตามมาตรฐานของอุปกรณ์ต่าง ๆ
4)
จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการบำรุงรักษา
ระบบน้ำประปา มีส่วนสำคัญคือ การจ่ายน้ำที่สะอาดไปยังจุดที่ใช้งานต่าง ๆ ในปริมาณ และแรงดันที่เหมาะสม กับการใช้งาน นอกเหนือ จากนั้น ยังจะต้องมีระบบ การสำรองน้ำในกรณีฉุกเฉิน หรือมีการปิดซ่อม ระบบภายนอก หรือช่วงขาดแคลนน้ำ และในอาคาร บาง ประเภท ยังต้องสำรองน้ำสำหรับ ระบบดับเพลิงแยก ต่างหากอีกด้วย
หลักการจ่ายน้ำภายในอาคารมี 2 ลักษณะคือ
1) ระบบจ่ายน้ำด้วยความดัน (Pressurized/Upfeed System)
เป็นการจ่ายน้ำโดยอาศัย การอัดแรงดันน้ำ ในระบบ ท่อประปาจากถังอัดความดัน (Air Pressure Tank) ระบบที่ใช้กับ ความสูงไม่จำกัด ทั้งยังไม่ต้องมี ถังเก็บน้ำ ไว้ดาดฟ้าอาคาร

2)
ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง (Gavity Feed/Downfeed System)
เป็นการสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้บนดาดฟ้าแล้ว ปล่อยลงมาตามธรรมชาติ ตามท่อต้องเป็นอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10 ชั้น ขึ้นไป ถือเป็น ระบบ ที่ไม่ซับซ้อนไม่ต้องใช้ไฟในการจ่าย แต่จะต้องเตรียมถังเก็บน้ำ ไว้บนดาดฟ้า จึงต้องคำนึงถึง เรื่องโครงสร้างในการ รับน้ำหนัก และความสวยงามด้วย
ในการสำรองน้ำสำหรับการใช้งานนั้นจะต้องมีการใช้ถังเก็บน้ำแบบต่าง ๆ มาประกอบการใช้งาน ถังเก็บน้ำที่มีใช้กันอยู่โดยทั่วไป ในปัจจุบันนั้นมีหลายแบบให้เลือกใช้ รวมทั้งอาจจะต้องมีเครื่องสูบน้ำติดตั้งอีกด้วย แต่เครื่องสูบน้ำนั้น ห้ามต่อระหว่าง ระบบสาธารณะ กับถังพักน้ำในบ้าน เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายเนื่องจาก เป็นการสูบน้ำจากระบบสาธารณะ โดยตรงซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น การสูบน้ำในบ้านจะต้องปล่อยให้น้ำจาก สาธารณะมาเก็บ ในถังพักตาม แรงดันปกติเสียก่อนแล้วค่อยสูบน้ำไปยังจุดที่ต้องการอื่น ๆได้
ตำแหน่งที่ตั้งถังเก็บน้ำที่ใช้งานทั่วไปมีที่ตั้ง 2 แบบคือ
- ถังเก็บน้ำบนดิน ใช้ในกรณีที่มีพื้นที่เพียงพอกับการติดตั้ง อาจติดตั้งบนพื้นดิน หรือบนอาคาร หรือติดตั้งบนหอสูง เพื่อใช้ประโยชน์ ในการใช้แรงดันน้ำ สำหรับแจกจ่ายให้ส่วนต่างๆของอาคาร การดูแลรักษาสามารถทำได้ง่ายแต่อาจดูไม่เรียบร้อยและไม่สวยงามนัก
- ถังเก็บน้ำใต้ดิน ใช้ในกรณีที่ไม่มีพื้นที่ในการติดตั้งเพียงพอและต้องการให้ดูเรียบร้อยสวย งามการบำรุงดูแลรักษาทำได้ยาก ดังนั้นการก่อสร้าง และการเลือก ชนิดของถังต้องมีความละเอียดรอบคอบ



เครื่องมืองานประปา

เครื่องมืองานประปามีหลายชนิดหลายประเภท แต่ที่มีความสำคัญและจำเป็นในงานช่างประปานั้น มีดังนี้
1.
เครื่องมือวัดระยะและวางแบบ ที่นิยมใช้กันดังนี้
   1.1  
ตลับเมตร เป็นเหล็กสปริงแผ่นโค้ง สามารถดึงออกได้ยาวตามขนาดและม้วนเก็บอยู่ในตลับ มีขนาด 2 เมตร 3 เมตร 5 เมตร (ขนาดมาตรฐานจะมีความยาว 2 เมตร)
   1.2  
บรรทัดพับ มีลักษณะเป็นท่อนๆ สามารถพับเก็บได้ มีความยาวตั้งแต่ 2 – 8 ฟุต และสามารถพับได้ทุกๆ 6 นิ้ว    เพื่อสะดวกในการพกพา(ขนาดมาตรฐานจะมีความยาว 6 ฟุต)ส่วนใหญ่จะทำด้วยไม้แต่บางทีก็จะทำด้วยโลหะ
   1.3  
ฉากตาย เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบความฉาก ความเที่ยงตรงในการเข้ามุมของแนวท่อ โดยใบฉากจะทำมุม 90 องศากับด้ามฉาก ใบฉากจะมีความยาวตั้งแต่ 6 - 12 นิ้ว
   1.4  
ระดับน้ำ เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบระดับทั้งในแนวดิ่งและแนวราบและความลาดเทของท่อ โดยทั่วไปจะเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ อาจทำด้วยไม้หรืออะลูมิเนียม และมีหลอดแก้วอยู่ตรงกลาง ภายในหลอดแก้วบรรจุของเหลว จะมีฟองอากาศเป็นเครื่องชี้วัดความเที่ยงตรง ถ้าวางท่อได้ระดับฟองอากาศจะอยู่ตรงกลางพอดี
   1.5  
ลูกดิ่ง เป็นเครื่องตรวจสอบความตรงในแนวดิ่ง ทำด้วยโลหะรูปทรงกรวยปลายแหลม และมีเชือกผูกอยู่ ลูกดิ่งมีหลายขนาด แต่ที่นิยมกัน คือ ขนาด 12 ออนซ์
   1.6  
ชอล์กเส้น เป็นเครื่องมือสำหรับทำเครื่องหมายหรือแนวบนพื้นหรือผนังก่อนวางท่อ โดยจะมีเชือกจุ่มอยู่ในผลชอล์ก ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสีแดงหรือน้ำเงิน  เวลาใช้ก็ให้ดึงออกมาขึงตามแนวที่ต้องการแล้วดึงให้ตึง แล้วตีเส้นเชือกลงเป็นแนวสำหรับการวางท่อ เมื่อเลิกใช้ก็ให้ม้วนเชือกเก็บในตลับ ระวังอย่าให้ถูกน้ำ  ถ้าถูกน้ำต้องนำไปตากแดดให้แห้งก่อนม้วนเก็บ
   1.7  
เหล็กขีด เป็นเครื่องมือสำหรับทำเครื่องหมายลงบนท่อที่กำหนดไว้ หรืออาจจะใช้ดินสอขีดแทนก็ได้
2.
เครื่องมืองานวางท่อประปาชนิดที่เป็นหลัก ที่นิยมใช้กันมีดังนี้
   2.1  
เลื่อยตัดเหล็ก เป็นเครื่องมือสำหรับตัดท่อเหล็ก มีส่วนประกอบสำคัญ คือ ใบเลื้อย ซึ่งทำด้วยเหล็กกล้า ฟันของเลื่อยจะอยู่ระหว่าง 18 – 32 ฟัน/นิ้ว ความยาวใบเลื่อยที่นิยมใช้กันมีขนาด 8 – 12 นิ้ว ฟันหยาบใช้ตัดท่อหนาๆ ฟันละเอียดใช้ตัดท่อบาง โครงเลื่อยมีทั้งชนิดปรับได้และปรับไม่ได้ สามารถปรับแต่งใบเลื่อยให้ตึงและตรงได้โดยใช้น๊อคหางปลา
   2.2  
ประแจจับท่อ เป็นเครื่องมือสำหรับจับหมุนท่อ ในกรณีที่ต้องการต่อท่อหรือถอดท่อออกจากข้อต่อ มีใช้กันหลายแบบ แต่ที่นิยมใช้กันคือขนาด 24 นิ้ว
   2.3 
เครื่องตัดท่อ เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดท่อ เครื่องมือชนิดนี้ มีล้อตั้งแต่ 1 – 4 ล้อ เครื่องตัดท่อที่เหมาะกับงานทั่วๆไป จะมีขนาดของปากตั้งแต่ 1-4 นิ้ว สำหรับการตัดท่อเล็กๆ นั้น สามารถใช้เลื่อยตัดเหล็กตัดได้เลย
   2.4 
เครื่องทำเกลียวท่อ เป็นเครื่องมือสำหรับทำเกลียวที่ปลายด้านนอกของท่อหรือข้อต่อมีทั้งแบบปรับแต่งขนาดได้และปรับแต่งขนาดไม่ได้ ที่นิยมกันมากที่สุด คือ  ขนาด 1 – 2 หุน
   2.5  
ปากกาจับท่อ เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับจับยืดท่อ ขณะตัดคว้าน หรือทำเกลียวท่อ มีทั้งแบบยึดติดกับโต๊ะและแบบมีขาตั้ง   ขนาดที่นิยมใช้กันคือขนาดที่สามารถจับท่อได้ตั้งแต่ 1 หุน ถึง 3 นิ้ว
   2.6 
ดอกคว้านท่อ เป็นเครื่องมือสำหรับคว้านปลายท่อด้านในเพื่อขจัดรอยที่เกิดจากการตัด มีหลายแบบแต่ที่นิยมใช้กันคือ ชนิดกรอกแกรก มีขนาดตั้งแต่1 หุน ถึง 2 นิ้ว
3.
เครื่องมือวางท่อประปาชนิดพลาสติก ที่นิยมใช้กันมีดังนี้
   3.1 
เครื่องมือสำหรับตัดท่อ หากไม่ใช้เครื่องตัดท่อ อาจใช้เลื่อยตัดเหล็กแทนได้
   3.2 
ตะไบกลมและตะไบท้องปลิง ใช้สำหรับคว้านปลายด้านในของท่อเพื่อขจัดรอยเยิน
   3.3 
เครื่องบานปลายท่อ ใช้สำหรับบานปลายท่อ ในกรณีที่ใช้ข้อต่อแบบขันเกลียว
   3.4  
ประแจขันท่อ ใช้สำหรับขันท่อในกรณีที่ต้องการบานปลายท่อหรือขันข้อต่อ

การทำประปา
เนื่อง จากน้ำธรรมชาติมักมีสารต่างๆ เจือปนอยู่จึงทำให้น้ำสกปรกไม่เหมาะที่จะนำมาดื่มหรือใช้ได้ แต่เราสามารถกำจัดสารเจือปนดังกล่าวได้ โดยวิธีการทำให้น้ำตกตะกอน การกรองและอื่น ๆ ดังนั้นเราจึงนำหลักการนี้มาใช้ในกระบวนการทำน้ำธรรมชาติให้สะอาดเพื่อเป็น น้ำใช้สำหรับประชาชนซึ่งเราเรียกว่าน้ำประปา
ใน กระบวนการทำน้ำประปา ก่อนอื่นต้องหาแหล่งน้ำซึ่งอาจจะเป็นอ่างเก็บน้ำหรือแม่น้ำบริเวณที่มีน้ำ ค่อนข้างสะอาด แล้วลำเลียงส่งผ่านท่อส่งน้ำหรือคลองส่งน้ำ ขณะที่น้ำไหลผ่านตามคลองส่งน้ำ แสงแดดและออกซิเจนจะทำลายเชื้อโรคบางชนิด ขณะเดียวกันสารเจือปนบางส่วนก็จะตกตะกอนไปบ้าง เมื่อลำเลียงน้ำไปถึงโรงผลิตน้ำประปา จะผ่านกระบวนการเป็นขั้นๆ ดังนี้
เริ่มจากสูบน้ำจากแหล่งน้ำจืด น้ำดิบจะถูกผ่านคลองไปยังโรงสูบน้ำดิบ1)แล้วสูบน้ำดิบเข้าสู่ถังตกตะกอน2)ขั้น นี้จะเติมปูนขาวเพื่อลดความเป็นกรดในน้ำ และใส่สารส้มเพื่อช่วยให้ตกตะกอนได้ดียิ่งขึ้น น้ำที่ผ่านการกวนสารส้มจะเริ่มมีความใสมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องผ่านการกรองอีกครั้งหนึ่ง ที่ถังกรอง3)เพื่อให้น้ำใสมากขึ้น น้ำที่ผ่านมายังถังกรองนี้จะถูกกรองด้วยถ่านหิน แอนทราไซต์ และทราย เพื่อช่วยกรองและดูดสีหรือกลิ่นที่อาจเจือปนมากับน้ำ จากนั้นจึงใสคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค4)แล้วจึงส่งน้ำไปยังถังน้ำใส5)และส่งผ่านอุโมงค์ส่งน้ำ6)ไปยังโรงสูบจ่ายน้ำ7)เพื่อส่งน้ำประปาไปบริการประชาชนจนถึงบ้านเรือนต่อไป บางแห่งอาจไม่มีอุโมงค์ส่งน้ำ แต่จะมีถังส่งเก็บน้ำไว้ก่อนที่จะส่งไปบริการ
การ ประปาบางแห่งอาจมีความจำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งบาดาล เช่น ในหมู่บ้านหรือชุมชนเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาลเป็นน้ำที่ใสสะอาด เนื่องจากผ่านการกรองจากชั้นดิน และหินหลายชั้นโดยธรรมชาติ การทำน้ำประปาดังกล่าว เมื่อสูบน้ำบาดาลขึ้นมาแล้ว อาจไม่ต้องผ่านกระบวนการทำให้ใสอีกก็ได้ และถ้าการตรวจวิเคราะห์พบว่า น้ำบาดาลที่สูบขึ้นมานั้นมีความสะอาดพอก็ไม่จำเป็นต้องเติมคลอรีนเพื่อฆ่า เชื้อโรคอีก คงมีแต่การสูบขึ้นถังเพื่อให้น้ำมีแรงดันมากพอที่จะส่งไปบริการผู้ใช้ได้ไกล
จะ เห็นว่ากว่าจะเป็นน้ำประปา ซึ่งนำมาใช้ในบ้านเรือนได้จะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มาก มีการลงทุนสูง ดังนั้นน้ำประปาจึงเป็นสิ่งที่มีค่า และเพื่อการบริการน้ำประปาดำเนินไปได้ด้วยดี การประปาจึงเก็บค่าน้ำจากผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม อัตราค่าน้ำประปาก็แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณของการใช้น้ำ
ใน การใช้น้ำประปานั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะใช้อย่างรู้คุณค่า ประหยัด และมีความรับผิดชอบร่วมกันเพื่ออนุรักษ์น้ำไว้ใช้ได้นาน ๆ นอกจากการเสียน้ำไปโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าน้ำเพิ่มขึ้น



การดูแลรักษาเครืองมือช่าง  ควรปฏิบัติดังนี้
1.ทำความสะอาดเครื่องมือหลังการใช้งานทุกครั้ง
12จัดเก็บเครื่องมือเข้าที่หรือเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย

วิธีการใช้เครื่องมือช่างประปา  มีหลักปฏิบัติดังนี้
1.  ศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือก่อนนำไปใช้
2.  ตรวจสอบาสภาพของเครื่องมือก่อนนำไปใช้งานถ้าพบว่าเครื่องมือชำรุด ควรนำไปซ่อมแซมก่อน
3.  ใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน




บทที่ 4 ช่างสี


งานช่างสี
             งานช่างสี  เป็นงานช่างขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง  เช่น  งานไม้  งานปูน  และงานโลหะ  เพื่อตกแต่งงานที่จัดทำสำเร็จแล้ว  ให้ดูเรียบร้อยสวยงาม  งานช่างสีนอกจากจะทำให้เกิดความสวยงามเรียบร้อยแล้ว  ยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น  ยืดอายุ     การใช้งานให้ยาวนานขึ้น  งานช่างสีมีหลักวิธีการ  เครื่องมือเครื่องใช้และวัสดุที่ต้องศึกษา  จึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  งานช่างสีเป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิง


งาน สีเป็นงานช่วยรักษา ป้องกันสภาพผิวของเนื้อวัสดุให้คงทน มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน ทำให้ผิวงานมีความสวยงามยิ่งขึ้น งานสีจะเป็นงานขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการผลิต ลักษณะของผู้ที่จะเป็นช่างทาสี จะต้องเป็นคนที่ต้องใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติงานจนเกิดทักษะ ความชำนาญเกี่ยวกับ เทคนิคขั้นตอนการทาสีหรือพ่นสี มีความเข้าใจเกี่ยวกับสีหรือวัสดุอื่นในการเคลือบผิว ตลอดจนโทนสีต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น สีแดงให้ความรู้สึกร้อน สีฟ้าอ่อนให้ความรู้สึกกว้างสบายตา เป็นต้น ลักษณะการทำงานจะเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดประณีตสูง การทาสีหากเป็นงานทาสีอาคาร ตึก ต้องใช้นั่งร้าน ทาสีในที่สูง ๆ ช่างสีจึงต้องเป็นคนที่กล้าทำงานในที่สูง
งานสีแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
1. งานทาสีปิดลายไม้ เช่นการทาสีหรือวัสดุอื่น แล้วมองไม่เห็นลายไม้
2. งานเคลือบผิวโชว์ลายไม้ เช่น การทาแลกเกอร์ เชลแล็ก ยูริเทน เมื่อทาแล้วสามารถมองเห็นลา
  เครื่องมือ-อุปกรณ์ที่ใช้ในงานสี
article
แปรงขนม้า
 เหมาะ กับงานทาที่ไม่ต้องการความละเอียดนัก เพราะขนแปรงจะเส้นใหญ่ และการทาลงบนงานจะเกิดริ้วรอยหรือทางแปรงบ้าง เหมาะกับงานทาทั่วไปเช่นทาน้ำยากันปลวก สีน้ำฯ หลังเลิกงานควรล้างแปรงทุก ครั้ง
แปรงขนกระต่าย-แปรงซี่หรือแปรงตับ
ใช้ ทาแชลก-แลคเกอร์ เหมาะกับงานทาที่ละเอียด เพราะขนแปรงจะมีความอ่อนนุ่ม เส้นเล็ก และการทาลงบนงานจะไม่เกิดริ้วรอยหรือทางแปรง เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ หลังเลิกงานควรล้างแปรงทุกครั้ง
เกรียงเหล็ก 
ใช้สำหรับการโป๊วในผิวหน้าที่ต้องการความเรียบ แผ่นเหล็กจะบางปลายตรง และเรียบเหมาะกับการปาดหรืออุดให้สีโป๊วเรียบเสมอกับผิวหน้า 
เชลแลคขาว 
มี ลักษณะเป็นผง เวลาใช้ต้องมาหมักกับแอลกอฮอล์ ให้ละลายเข้ากัน ในภาชนะที่ไม่เป็นโลหะ และเก็บไว้ในที่อับแสง เป็นตัวรองพื้นก่อนการทาแลคเกอร์ ช่วยการจับยึดเกาะผิวหน้าและป้องกันการซึมออกมาของยางไม้ได้ ในระดับหนึ่ง
โป๊วพลาสติก
โป๊วรถยนต์ 
เป็น ตัวโป๊วที่นิยมใช้กับงานที่ต้องพ่นทับ ไม่โชว์ลายไม้  เช่นสีพ่น เป็นต้น การใช้ต้องมีตัวเร่งให้แข็ง(Hardenner) ถ้าต้องการให้แข็งตัวช้าก็ผสมตัวเร่งแต่น้อย

 โป๊วเหลือง
เป็นตัวโป๊วที่นำใช้กับงานกึ่งเปิด และเปิดลายไม้ได้ดี มีลักษณะเหลว ใช้ง่าย แห้งไม่เร็วนัก 
โป๊วแดง
โจมาร์ 
เป็น ตัวโป๊วอีกตัวหนึ่ง ที่นิยมมากเช่นกัน สำหรับพวกสีพ่น ที่ปิดลายไม้ มีเนื้อเหลว แห้งตัวช้า นิยมมาพี้ลงในร่องเสี้ยน ด้วยคุณสมบัติที่เหลวตัวนั่นเอง 

การดูแลรักษาเครืองมือช่าง  ควรปฏิบัติดังนี้
1.ทำความสะอาดเครื่องมือหลังการใช้งานทุกครั้ง
12จัดเก็บเครื่องมือเข้าที่หรือเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย
วิธีการใช้เครื่องมือช่างสี  มีหลักปฏิบัติดังนี้
1.  ศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือก่อนนำไปใช้
2.  ตรวจสอบาสภาพของเครื่องมือก่อนนำไปใช้งานถ้าพบว่าเครื่องมือชำรุด ควรนำไปซ่อมแซมก่อน
3.  ใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน

วีดีโอคลิป งานช่างสี