1 . สุสานโสเภณี จ.กาญจนบุรี
สถานบันเทิงเก่าแก่ของจังหวัด
เปิดให้บริการกับผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศได้มาใช้บริการ
ที่แห่งนี้มีหญิงบริการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวถูกบังคับให้รับแขกอย่างทารุณ
ไม่ได้พักผ่อน บ้างก็ถูกทำร้ายร่างกาย
บ้างก็เป็นโรคร้ายจนสุดท้ายหญิงสาวทั้งหมดได้เสียชีวิตลงที่นี้อย่างมากมาย
จนเราเรียกได้ว่าเป็น “สุสานโสเภณี”
ซึ่งชาวบ้านบริเวณนั้นมักได้ยินเสียงผู้หญิงและเด็กร้องขอความช่วยเหลือ
เมื่อเช้าไปดูก็ไม่พบใครเลย
2. บ้านผีมอญ จ.กาญจนบุรี
คู่สามี-ภรรยาเจ้าของบ้านเป็นคนมอญที่มีนิสัยหวงของมาก
จะดุด่าคนที่แอบมาขโมยผลไม้ในสวน ด้วยความที่เป็นคนหวงของและดุด่าเก่งมาก
จึงทำให้ ถูกฆ่าตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่ท้ายสวน
วันหนึ่งมีคนเข้ามาเก็บผลไม้ในสวน แกก็ตามไปทวงถึงบ้าน
จนคนที่เก็บไปรีบนำมาคืนแทบไม่ทัน นอกจากจากยังมีศพชาวกะเหรี่ยง 9 ศพ
ที่ถูกวิสามัญฝังอยู่บริเวณบ้านหลังนี้
3. บ้านผมผี จ.กาญจนบุรี
หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านตัดสินใจลาบวชด้วยความเสียใจที่คนในบ้านตายที่ละคนโดยไม่
ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ปล่อยบ้านทิ้งไว้จนกลายเป็นสภาพบ้านร้าง
ชาวบ้านบริเวณนั้นนึกว่าเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้ว จึงเข้าไปดูในบ้าน
ปรากฏว่าเส้นผมเต็มไปหมด บางคนก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในบ้าน
4. โรงพยาบาลสยอง จ.ระยอง
ด้วยพิษทางเศรษฐกิจเมื่อหลายปีก่อน
ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ปิดกิจการลงกลายเป็นโรงพยาบาลร้างในที่สุด
ในเวลากลางคืนชาวบ้านมักเห็นไฟเปิดสว่างเต็มไปหมด
บางคนก็เข้าไปเห็นเตียงนอนคนไข้เข็นเองได้
กลายเป็นเรื่องราวชวนสยองเลื่องลือถึงกิตติศัพท์ความน่ากลัวมาถึงปัจจุบัน
5. สุสานศพไร้ญาติ จ.ชลบุรี
ศพไร้ญาติทั้งหลายเหล่านี้ถูกนำมาขุดหลุมฝัง
เป็นสุสานไร้ญาตินับร้อยนับพันขุดเรียงรายกันเป็นทิวแถวยาว
หลายๆคนเล่ากันว่าเป็น ฮวงซุ้ยที่นมาก
6. บ้าน 4 ศพ จ.ชลบุรี
ครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 2 คน
เดินทางไปท่องเที่ยว
แต่ระหว่างทางประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งหมด
บ้านหลังนั้นกลายเป็นบ้านร้าง
แต่คนที่ผ่านไปมาเห็นเงาคนเหมือนมีคนอยู่ในบ้านอยู่เสมอ
และยังเป็นที่พบศพถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา
และมีห่วงเชือกผูกเป็นปมมัดอยู่ในบ้างหลังนั้น
7. บ้านผีนายพล จ.ชลบุรี
เป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเลที่ครอบครัวนายทหารมาพักผ่อน
และถูกฆาตกรรมทั้งครอบครัว
ศพทั้งหมดถูกยัดไว้ในห้องใต้ดินของบ้านพักต่างอากาศหลังนี้
มีคนเคยเห็นควันธูปลอยขึ้นมาในบริเวณบ้านหลังนี้ด้วย
8. บ้านผียายสรวง จ.อยุธยา
หญิงชราเจ้าของบ้าน ผู้ชอบกินหมาก
ได้เสียชีวิตลงภายในบ้าน
พร้อมกับโลงศพที่พบภายในบ้านจนถึงทุกวันนี้
ผู้คนแถวนั้นยังคงได้ยินเสียงคนแก่พูด และเสียงตำหมากอยู่ทุกค่ำคืน
9. บ้านผีท่านขุน จ.อยุธยา
เป็นบ้านไม้สักเก่าสมัย ร.5
หลังจากที่เจ้าของบ้านเสียชีวิต
บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นบ้านร้าง วันหนึ่งมีชาวบ้านพายเรือผ่านมา
เห็นมีผู้หญิงอยู่บนเรือนแต่งชุดโบราณสมัย ร.5
เคยมีคนมาลองของที่บ้านหลังนี้ก็เจอดีกันทุกคน จนต้องมาขอขมากราบไหว้กัน
10. บ้านผีโหด อ.บางเลน จ.นครปฐม
เกิดเหตุทะเลาะวิวาทฆ่ากันตาย
ิงลูกเขยเสียชีวิตลง
แล้วนำศพไปทิ้งไว้ในบ่อหลังบ้าน ปัจจุบันยังคงมีคราบเลือดที่ขอบกำแพง
เกิดเหตุทะเลาะวิวาทฆ่ากันตาย
ิงลูกเขยเสียชีวิตลง
แล้วนำศพไปทิ้งไว้ในบ่อหลังบ้าน ปัจจุบันยังคงมีคราบเลือดที่ขอบกำแพง
11. บ้านผีตายโหง หนองจอก
เป็นบ้านร้างมาเกือบ 10 ปี มีการเล่ากันว่า
นอกจากจะมีการฆ่ากันตายในบ้านแล้ว
ยังมีผู้หญิงเข้ามาผูกคอตายในบ้านหลังนี้อีก
และยังมีการนำเอาศพมาทิ้งไว้ใต้บันไดเพื่ออำพรางคดีอีกด้วย
เป็นบ้านร้างมาเกือบ 10 ปี มีการเล่ากันว่า
นอกจากจะมีการฆ่ากันตายในบ้านแล้ว
ยังมีผู้หญิงเข้ามาผูกคอตายในบ้านหลังนี้อีก
และยังมีการนำเอาศพมาทิ้งไว้ใต้บันไดเพื่ออำพรางคดีอีกด้วย
12. บ้านตรอมใจ หนองจอก
หญิงสาวเจ้าของบ้านนับถือศาสนาพุทธรับการกระทำของสามีที่นับถือศาสนาอิสลาม
เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงไม่ได้ ทั้งสองจึ่งทะเลาะวิวาทกัน
ฝ่ายชายหนีออกจากบ้านไป
ฝ่ายหญิงได้แต่เฝ้ารออยู่ที่บ้านจนกระทั่งล้มป่วยเพราะตรอมใจ
และเสียชีวิตลงในทีสุด ชาวบ้านแถวนั้นมักได้เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้หญิงเสมอ
หญิงสาวเจ้าของบ้านนับถือศาสนาพุทธรับการกระทำของสามีที่นับถือศาสนาอิสลาม
เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงไม่ได้ ทั้งสองจึ่งทะเลาะวิวาทกัน
ฝ่ายชายหนีออกจากบ้านไป
ฝ่ายหญิงได้แต่เฝ้ารออยู่ที่บ้านจนกระทั่งล้มป่วยเพราะตรอมใจ
และเสียชีวิตลงในทีสุด ชาวบ้านแถวนั้นมักได้เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้หญิงเสมอ
13. บ้านเสาตกน้ำมัน จ.ราชบุรี
บ้านทรงไทยที่มีเสาตกน่ำมันไหลจากข้างบนลงมาข้างล่าง
ด้วยความที่เป็นบ้านร้างก็มีเถาตำลึงขึ้นเต็มไปหมด
ชาวบ้านไปเก็บปรากฏว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนชี้หน้าอยู่
บ้านทรงไทยที่มีเสาตกน่ำมันไหลจากข้างบนลงมาข้างล่าง
ด้วยความที่เป็นบ้านร้างก็มีเถาตำลึงขึ้นเต็มไปหมด
ชาวบ้านไปเก็บปรากฏว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนชี้หน้าอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น